อ่านความรู้ทั่วไป เทคนิคการดูแลสุขภาพ และชีวิตประจำวัน เรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับอาหาร สมุนไพรไทย รวมทั้งความรู้ต่างๆ ที่จะช่วยให้ท่านสามารถดูแลตัวเอง ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสมกับเพศและวัย แล้วท่านจะรู้สิ่งดีๆอยู่ในครัว ในสวนหลังบ้านของท่านนี่เอง
แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่ทานแล้วมีประโยชน์มากมาย วันนี้เกร็ดความรู้มีประโยชน์อีกอย่างของแอปเปิ้ลมาบอกกัน...
ทราบหรือไม่ว่า แอปเปิ้ลมีประโยชน์ในการช่วยดับกลิ่น คือ นำไปวางไว้ในครัวในห้องรับแขกก็จะช่วยกำจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ได้ แล้วเมื่อเวลากินอาหารที่มีกลิ่นแรง ๆ อย่างเช่น กระเทียมหรือของหมักดอง ก็ให้รับประทานแอปเปิ้ลตามเข้าไปสักหนึ่งเสี้ยว แค่นี้ กลิ่นเหม็นก็จะหายไป เพราะแอปเปิ้ล มีสารบางอย่างที่สามารถเข้าไปทำลายและฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในปาก รวมถึงแอปเปิ้ลที่เข้าไปอยู่ในกระเพาะจะช่วยทำลายและฆ่าเชื้อแบคทีเรียอีก ด้วย
รู้อย่างนี้แล้ว ก็อย่าลืมทานแอปเปิ้ลหลังอาหาร จะได้ไม่มีกลิ่น.
เคล็ดลับ ความสวยความงาม 10 ข้อที่จะทำให้คุณดูดี ดูสวยงาม มาฝากค่ะ สาว ๆ คนไหนอยากดูดี และสวยงามคลิกอ่าน บทความ เกร็ดความรู้ เคล็ดลับ เรื่องนี้กันเลยค่ะ
อิ่มกำลังดีกับมื้อเช้าแสนวิเศษ
เราต่างก็รู้เหมือนๆ กันว่า มื้อเช้าเป็นมื้อสำคัญที่สุด แต่หลายคนต้องรีบเร่งทำเวลาก่อนออกจากบ้าน จึงพลาดมื้อเช้าไปอย่างน่าเสียดาย แม้จะพยายามชดเชยด้วยเครื่องดื่มร้อนๆ หรือน้ำผลไม้สักแก้ว กับขนมขบเคี้ยวจำพวกแป้งทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นคุกกี้ ขนมปังหรือ ปาท่องโก๋ก็ตาม แต่พลังงานที่ได้รับก็ยังไม่เพียงพอให้คุณได้ เต็มที่ กับงานและทุกสิ่งที่ประเดประดังเข้ามาในวันนั้น ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า หากคุณผ่านคืนวานอันเหนื่อยล้า และต้องการเรียกพลังกลับคืนมาโดยเร่งด่วน ต้องถือเป็นกฏเหล็กที่จะไม่งดมื้อเช้าในวันนั้น
ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นมื้อหนัก อาหารเช้าชุดใหญ่อะไรเลย เพราะอาจรู้สึกว่าท้องไส้ยังไม่พร้อมสำหรับการย่อยอาหารปริมาณมากๆ ขอเพียงแต่พยายามเลือกกินอาหารให้ครบห้าหมู่ อย่างละนิดอย่างละหน่อยแล้วตบท้ายด้วยผลไม้สด และนมหรือโยเกิร์ตสักถ้วย ก็จะช่วยเรียกความกระปรี้กระเปร่ากลับคืนมาได้
สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ
เป็นทางออกง่ายๆ ที่หลายคนมองข้ามเวลาเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า หรือเกิดความเครียดในตัวมากๆ ให้ลองแก้ง่ายๆด้วยการสูดลมหายใจทางจมูกเข้าปอดลึกๆ กลั้นไว้ในช่องอกประมาณ 15-20 วินาที ก่อนจะปล่อยลมหายใจออกทางปากให้หมด ทำซ้ำเช่นนี้ประมาณ 3 ครั้ง คุณจะพบว่ารู้สึกสดชื่นขึ้น ทั้งนี้เป็นเพราะปกติแล้วคนส่วนใหญ่มักจะหายใจเข้าออกกันเพียงช่วงสั้นๆ ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เต็มที่ วิธีนี้จะทำให้ออกซิเจนเข้าปอดคุณอย่างเต็มที่ทำให้รู้สึกปลอดโปร่ง และเลือดลมในร่างกายไหลเวียนสูบฉีดดีขึ้น
ดื่มนมสด
นม สดแม้หนึ่งแก้วเล็กๆ มีโปรตีนชนิดที่ช่วยสร้างพลังงานให้คุณได้ถึง 3 กรัม ทำให้ร่างกายปรับตัวได้อย่างสมดุล นอกจากนี้ในนมสดก็ยังเป็นแหล่งแคลเซียมที่สำคัญต่อร่างกายอีกด้วย ในหนึ่งแก้วขนาด 100 กรัม มีแคลเซียมสูงถึง 120 มิลลิกรัม ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟันได้ดี แถมยังมีฟอสฟอรัสและวิตามินครบถ้วนทั้ง A,B.C, และ E อีกต่างหาก
แวบไปว่ายน้ำ
ข้อนี้อาจทำยากสักนิด แต่ถ้าคุณหาจังหวะแวบได้ ให้ลงว่ายน้ำสักประมาณ 15-20 นาที อย่างไม่ต้องหักโหมอะไรนัก จะช่วยให้คุณสดใสเปล่งปลั่งขึ้นอย่างประหลาด ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าเป็นเพราะน้ำในสระว่ายน้ำจะช่วยพยุงตัวไม่ให้คุณรู้สึก ใช้กำลังมากเหมือนออกกำลังกายในยิม และความเย็นฉ่ำของน้ำจะทำให้รู้สึกสดชื่นกระฉับกระเฉงขึ้น แต่ถ้าหาเวลาไม่ได้จริงๆ อาจจะเลือกอาบน้ำฝักบัวแทนก็ได้ แต่ผลของการลงแหวกว่ายกลางสายธาราจะดีกว่ามาก
กล้วยช่วยได้
อย่ามองข้ามผลไม้พื้นบ้านธรรมดาๆ อย่างกล้วยไปได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นกล้วยหอมอร่อยเลิศเลยด้วยซ้ำ จะเป็นกล้วยพันธุ์ไหนก็ได้สักหนึ่งลูก จะช่วยคุณเรียกพลังกลับมาได้ในเวลาอันสั้น เพราะในกล้วยอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินที่สำคัญต่อร่างกาย ทั้ง A,B,C และ E รวมทั้งเหล็กแป้ง น้ำตาลธรรมชาติ นอกจากนี้ยยังมีโปแตสเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่สำคัญ ช่วยรักษาสมดุลของระดับน้ำและความชุ่มชื้นของเซลล์ผิวหนังกับเนื้อเยื่อ ต่างๆ ในร่างกายอีกด้วย
นวดตัวพร้อมกลิ่นหอมบำบัดอารมณ์
อาจจะปลีกเวลาไปนวดตัวช่วงสั้น ๆ โดยเลือกการนวดน้ำมันอโรมาที่กลิ่นหอมของน้ำมันจากธรรมชาติจะช่วยให้คุณ รู้สึกผ่อนคลาย และเรียกความสดใสกลับคืนมาได้ แต่หากหาเวลานวดไม่ได้จริง ๆ อาจจะใช้วิธีจุดเตาขนาดเล็กในห้องที่ให้กลิ่นน้ำมันหอมระเหยเหล่านี้แทน ก็สามารถช่วยได้เช่นกัน
น้ำผลไม้สด
วิตามินซีในน้ำผลไม้ ซึ่งมีในปริมาณสูงอยู่แล้วโดยธรรมชาติจะช่วยเสริมสร้างพลังงานได้ในทันที ทันควัน เพราะน้ำตาลจากรสหวานของผลไม้ ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้เป็นพลังงานได้เลย โดยไม่ต้องย่อยหรือแปรสภาพเหมือนกับน้ำตาลที่ได้จากแหล่งอื่น นอกจากนี้ ยังมีสารต้านอนูมูลอิสระ ช่วยชะลอความแก่และริ้วรอยต่างๆ ได้ดีอีกด้วย ควรพยายามดื่มน้ำผลไม้อย่างน้อยวันละหนึ่งแก้วเป็นประจำหรือจะเป็นน้ำขิง ร้อนๆ ก็จะช่วยสร้างความกระปรี้กระเปร่าอย่างเห็นผลทันทีเช่นกัน
ถั่วและผลไม้อบแห้ง
นี่ก็เช่นกันที่ไม่ควรมองข้ามเพราะทั้งถั่วและผลไม้อบแห้งทั้งหลายมี ประโยชน์มากกว่าขนมขบเคี้ยวจำไวกแป้งนัก เนื่องจากอุดมด้วยธาตุเหล็ก ช่วยเสริมสร้างพลังงานและทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือดในร่างกายคล่องตัว ขึ้น เป็นผลให้ผิวพรรณของคุณดูสดชื่นเปล่งปลั่งกว่าที่เคยเป็น บางคนถึงกับเชื่อว่า การกินอาหารจำพวกถั่วมาก ๆ จะช่วยลดขนาดของไฝ ขี้แมลงวัน หรือตุ่มเล็กตุ่มน้อยตามผิวหนังด้วยซ้ำไป แต่ในสายตาของแพทย์แล้ว ไม่ควรเลือกกินอาหารประเภทใดประเภทหนึ่งซ้ำกันนาน ๆ หรือในปริมาณที่มากเกินปกติ เพราะการกินที่ถูกต้องคือต้องให้คละหมู่หลากหลายประเภทอาหารเข้าไว้
ชื่นใจกับดอกไม้สวย
วิธีนี้ง่ายสุด เพียงแค่เดินหาซื้อหรือสั่งดอกไม้สวยหอมๆ สักช่อมาให้รางวัลกับตัวเอง โดยไม่ต้องรอโอกาสพิเศษที่ไหนหรือจากใครทั้งนั้น คุณก็จะได้รับความสดชื่น และรู้สึกเปี่ยมพลังขึ้นในทันทีที่สัผัสกลิ่นหอม และได้ชื่นชมความงามของดอกไม้ช่อสวยหรือถ้าไม่ต้องการการสิ้นเปลืองจะเลือก เดินชมต้นไม้ดอกไม้ตามสวนสาธารณะะที่ได้ชื่อว่าเป็นปอดของกรุงเทพฯ อย่างเช่น สวนเบญจสิริ ย่านสุขุมวิท ก็ได้เช่นกัน หรือไม่ก็อาจจะซื้อต้นไม้กระถางเล็กๆ วางประดับบนโต๊ะทำงานสีเขียวอันสดชื่นของมันช่วยสร้างพลังให้กับคุณได้ในทุก ครั้งที่มองเห็น
จิบชาสมุนไพร
การได้จิบเครื่องดื่มร้อนๆ รสชาติถูกใจ เช่น ชาสมุนไพร จะช่วยผ่อนคลายและเรียกพลังกลับคืนมาให้คุณได้ นอกจากนี้ชาบางชนิด เช่น ชากลิ่นสะระแหน่ ยังช่วยคลายเครียดและขับลมในกระเพาะอีกด้วย ซึ่งหากไม่ต้องการจิบชา อาจจะแค่หาใบสะระแหน่มาขยี้สูดดมกลิ่นของมันก็ช่วยคลายเครียดได้เช่นกัน เพียงเท่านี้คุณก็สามารถสร้างลุคใหม่ที่ทั้งสดใสและมีสุขภาพดี พร้อมที่จะออกไปเริงร่ารับลมร้อนโดยไม่ต้องอายใคร
มา อีกแล้ว กับเคล็ดลับการดูแลผิวหน้าให้สวยใส ถูกใจคุณผู้หยิงทั้งหลาย วันนี้เรามีมานำเสนอทั้งหมด 4 สูตรด้วยกัน เป็นอย่างไร ไปดูกันเลย
สูตรผิวหน้าเนียนลดริ้วรอย นำ มะละกอสุกบดละเอียดประมาณ 2 ช้อนชา พอกหน้าให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 10-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำเป็นประจำวันละครั้ง ผิวหน้าจะเนียนขึ้นและช่วยลดริ้วร้อย
โลชั่นน้ำผลไม้ นำ น้ำแตงกวา น้ำมะเขือเทศ น้ำมะนาว และน้ำแตงโม อย่างละ 1 ช้อนชา ผสมให้เข้ากัน จากนั้นใช้สำลีแต้มส่วนผสมเช็ดเบาๆให้ทั่วใบหน้า เพื่อช่วยสมานผิวและกระชับรูขุมขนแทนการใช้โทนเนอร์
มอยส์เจอไรเซอร์น้ำผึ้ง ใช้ น้ำผึ้งประมาณ 1 ช้อนชา อุ่นด้วยไฟอ่อนๆ ประมาณครึ่งนาที จากนั้นทิ้งไว้ให้เย็นแล้วทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จึงเช็ดออกแล้วล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น ผิวหน้าเนียนนุ่มขึ้น วิธีนี้ยังช่วยกำจัดสิวหัวดำอีกด้วย
โลชั่นน้ำนมผสมเปลือกกล้วยหอม ใช้ เปลือกกล้วยหอมสุก 1 ผล ล้างให้สะอาดแล้ว หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เติมน้ำนมสดลงไปประมาณครึ่งถ้วย บดให้ละเอียดเข้ากัน ใช้แทน โลชั่นสำหรับผิวแห้งหรือเกรียมแดด ทั้งยังช่วยขจัดฝุ่นละออง ที่คั่งค้างอยู่ตามผิวหน้า ด้วย โลชั่นน้ำนมเปลือกกล้วยนี้สามารถเก็บใส่ขวดแช่ในตู้เย็นเก็บไว้ใช้ได้
ขั้นตอน อาจจะเยอะไปนิด แต่รับรองผลไม่แพ้ แถมยังใสไร้สิวด้วยนะ ลองทำกันดู
" เล็บขบ" อาจเกิดจากการตัดเล็บไม่ถูกวิธี โดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่ชอบทำเล็บที่ร้านเสริมสวย ซึ่งมักจะตัดถึงมุมเล็บ ทำให้เล็บที่งอกออกมาแทงเนื้อได้ หรือเกิดจากการใส่รองเท้าที่คับและสั้นเกินไป ทำให้แผ่นเล็บมีรูปร่างผิดปกติและงอกไปกดทับเนื้อข้างเล็บได้เช่นกัน
นอก จากนี้อาจพบได้ในผู้ที่มีลักษณะเล็บผิดปกติ ซึ้งอาจเกิดจากอุบัติเหตุ การติดเชื้อราที่เล็บ หรือการที่มีเนื้อด้านข้างของเล็บมากเกินไป อาการของเล็บขบนั้นแตกต่างกันไป บางรายอาจแค่ปวดรำคาญไปจนถึงปวดรุนแรงที่ขอบเล็บ โดยเฉพาะเมื่อสวมรองเท้าก็จะมีอาการปวดมากขึ้น และถ้าเป็นอยู่หลายวันหรือจนกระทั่งแผ่นเล็บกดทะลุชั้นหนังกำพร้าก็จะมีการ อักเสบติดเชื้อตามมา ทำให้มีลักษณะปวดบวมแดงไปจนถึงมีน้ำเหลืองและกลายเป็นหนองได้
วิธีป้องกันปัญหาเล็บขบทำได้โดยแก้ไขที่สาเหตุ เช่น ตัด เล็บในแนวตรง ไม่ตัดมุมเล็บ และไม่ตัดติดหนัง หลีกเลี่ยงรองเท้าที่คับและสั้นเกินไป ที่สำคัญ ดูแลเล็บให้แห้งและสะอาด ก็จะช่วยลดการสะสมของเชื้อโรคที่อยู่ในซอกเล็บได้
นอกจากนี้เรายังมี 6 สูตรสมุนไพรแก้เล็บขบ วิธีรักษาง่ายๆ ด้วยตัวคุณเองมาฝากกัน
สูตรที่ 1
โขลกใบฝรั่งสด 2 ใบ เกลือ 1/2 ช้อนชา ข้าวสุก 2 ช้อนโต๊ะ ให้เข้ากัน นำมาพอกตรงหนองบริเวณที่เล็บขบจะช่วยบรรเทาอาการปวดได้
สูตรที่ 2
ตำ ไพลมา 1 แง่ง (ยาวประมาณ 2 นิ้ว) เกลือตัวผู้ (เกลือที่เป็นเม็ดยาวๆ ) 7 เม็ด ข้าวสุก 1 กำมือให้ละเอียด พอกบริเวณที่เป็นแผล ภายใน 20 นาทีจะทำให้หนองแตกออกมาและหายปวดได้
สูตรที่ 3
ฝานมะนาว ตรงส่วนหัวออก ขนดพอสอดนิ้วเข้าไปได้ ใช้มีดคว้านเอาเนื้อในออกเล็กน้อย ทาปูนแดงบางๆ บริเวณที่เล็บขบ แล้วสอดนิ้วที่เป็นเล็บขบเข้าไปข้างในมะนาวที่ฝานแล้ว ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที วิธีนี้ทำวันละ 2-3 ครั้ง เช้า-เย็น
สูตรที่ 4
ใช้ใบเทียนดอก 7-10 ใบ (ช่วงมีดอกใช้ดอกก็ได้) ตำให้ละเอียด นำมาพอกบริเวณเล็บขบ เปลี่ยนยาวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
สูตรที่ 5
ใช้เกลือป่นอัดใส่ตามซอกเล็บเท้าที่เจ็บและถ้าเจ็บมากๆ ให้ใส่เกลือทุกเช้า –เย็น จนกว่าจะหาย
สูตรที่ 6
ใช้ใบพลู 3-5 ใบ ตำผสมกับเกลือ แล้วพอกตรงบริเวณที่เล็บขบ เปลี่ยนยาวันละ 2 ครั้ง ช่วงเช้าและเย็น พอกไว้ 5-7 วันก็หายสนิท
เพียงเท่านี้ รับรองว่าอาการเล็บขบจะไม่กลับมากวนใจคุณอีกต่อไป
เมื่อพูดถึง "แผลร้อนใน" แผลเล็กๆ ในปากที่มักจะขึ้นมาเวลาที่เราเครียดกับการทำงาน นอนดึก นอนไม่พอ หรือท้องผูก "108 เคล็ดกิน" เชื่อว่าทุกคนก็คงต้องเคยเป็นกันมาหมดแล้ว ซึ่งเจ้าแผลร้อนในนี้ก็ไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงอะไร เพียงแค่ทำให้รู้สึกเจ็บๆ แสบๆ บ้าง และทำให้กินข้าวไม่สะดวกอยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ก็จะหายไปเอง แต่ถ้าไปกัดซ้ำแผลตรงเดิมละก็ ถึงกับน้ำตาเล็ดได้เลยล่ะ