แพทย์แผนไทย โคราช รักษาโรค SLE ไขความลับวิธีรักษาโรคแพ้ภูมิตัวเองหรือโรคพุ่มพวง ( SLE)
รถตู้ให้เช่า ร้อยเอ็ด
หมอเอ ณัฐปราชญ์ คลินิก

korat_news  ติดต่อกันเพียงแค่ข้ามคืน จากนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ อเมริกา ก็เป็นนายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน กับข้อสังเกต ของทั้ง 2 มหาอำนาจโลกที่เดินทางมาเยือนไทยแบบโลกทั้งใบต้องจับตา

 

 แต่แท้จริงแล้วสำหรับในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ไทยถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ดีที่สุดในการรุกเข้าสู่ ใจกลางโลก และในทางกลับกัน ก็เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ที่ต้องหาช่องทางออกสู่น่านน้ำเพื่อประโยชน์ทางการค้าและการทหาร ประเทศ ไทยเป็นพื้นที่ขอบโลก เมื่อมหาอำนาจต้องการสู้รบเพื่อยึดใจโลก ก็ต้องใช้พื้นที่ขอบโลกเป็นทางผ่าน โลกนั้นต้องผ่านพื้นที่ขอบโลก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ถัดลงมา เช่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันออกกลาง

และนี่คือคำตอบว่าทำไมอเมริกาถึงต้องมาไทย และหวังใช้ไทยเป็นทางผ่านเข้าไป อีกทั้งจะใช้เป็นพื้นที่สกัดประเทศในโลก ซึ่งคือจีนไม่ให้ออกไปไหนได้ ขณะที่จีนก็เข้าใจยุทธศาสตร์ตรงนี้ดี จึงต้องมาที่ไทยเหมือนกัน เพื่อใช้ไทยในการสกัดกั้นยุทธศาสตร์ปิดล้อมจีนของสหรัฐ

ทั้ง 2 ประเทศก็ชิงดีชิงเด่นในทุกด้านมาแล้ว ไม่เว้นการต่อสู้ด้วยระบบการเมืองเมื่อไม่สำเร็จ สหรัฐก็เปลี่ยนมาต่อสู้ด้วยระบบเศรษฐกิจ คือแผ่ขยายเศรษฐกิจแบบทุนนิยมเข้าไป มีมาตรการกดดันทางการค้าในรูปแบบต่างๆ

แต่จีนสู้ด้วยเศรษฐกิจแบบ 1 ประเทศ 2 ระบบ ไม่ยอมใช้ทุนนิยมเสรี และการต่อสู้แบบนี้กลับทำให้จีนแข็งแกร่งขึ้น ขณะที่สหรัฐกับยุโรปกำลังล่มสลายเสียเอง ถึงวันนี้นักวิชาการหลายสำนักฟันธงตรงกันว่า ไม่เกินปี ค.ศ.2025 เศรษฐกิจของจีนจะขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลก อินเดียเป็นอันดับ 2 แหล่ะการมาครั้งนี้ของสหรัฐฯ ก็เพื่อพยายามยับยั้งการเติบโตของจีน ไทยจึงถือเป็นชัยภูมิที่เหมาะกับการเป็นศูนย์กลางการบิน การคมนาคม ทั้งยังเป็นพื้นที่เชื่อมต่อของ 2 ทะเลอีกด้วย

แต่ถึงอย่างไรไทยเราก็เป็นผู้ตามวันยังค่ำ แต่ที่ชัดแล้ว ต้องดูว่าการเยือนของทั้ง 2 ประเทศนั้น ไทยได้อะไร อย่างสหรัฐฯ ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องที่จะใช้การหารือในระดับสูงเป็นเครื่องมือในการสานสัมพันธ์สู่ ความสำเร็จยิ่งขึ้น ภายใต้ความเป็นหุ้นส่วนระหว่างกันให้ที่หลากหลายมิติมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลสะท้อนในความร่วมมือเชิงลึกด้านต่าง ๆ ทั้งการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ ด้านเทคนิค สังคม วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การหารือทางยุทธศาสตร์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและไทย (United States-Thailand Strategic Dialouge) ถือเป็นกรอบความร่วมมือที่สำคัญในการกำหนดวาระความสัมพันธ์ของทั้งสหรัฐและไทย

แต่กระนั้น หากดูความสัมพันธ์ ระหว่างเรากับจีนแล้ว จีนมีความสัมพันธ์ในหลายมิติกับไทยมากกว่า ทั้งอาทิ ด้านราชวงศ์ วัฒนธรรม การทหาร การค้าการลงทุน ทั้งด้านท่องเที่ยว อุตสาหกรรมที่เป็นรูปธรรมจริง นอกจากนี้ยังร่วมไปถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่มีร่วมกันทั้ง 2 ประเทศมาอย่างยาวนานแบบไม่มีพิษมีภัยต่อกันด้วย

 

ที่มา:http://news.mthai.com/hot-news/203714.html

 

Go to top