วันนี้ (18 มกราคม) เว็บไซต์ news.com.au ได้เปิดเผยคำสัมภาษณ์ของ แลนซ์ อาร์มสตรอง อดีตยอดนักปั่นน่องเหล็กวัย 41 ปี ซึ่งได้ยอมรับว่า ใช้สารกระตุ้น ระหว่างการแข่งขันจักรยานทางไกล ตูร์ เดอ ฟรองซ์ ทั้ง 7 ครั้ง ที่เขาเป็นผู้ชนะ โดยแลนซ์ อาร์มสตรอง กล่าวว่า เขา เป็นผู้ตัดสินใจเองและเป็นความผิดของเขา สถานการณ์ครั้งนี้เป็นการโกหกครั้งใหญ่ที่เขาทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขามาที่นี่ก็เพื่อกล่าวคำว่าเสียใจ
อย่างไรก็ดี อาร์มสตรอง ปฏิเสธว่า การใช้สารกระตุ้นครั้งนี้เป็นแผนการที่ใหญ่ที่สุดในวงการกีฬาเท่าที่เคยมีมา ตามที่ถูกกล่าวหา แต่มันเป็นแผนที่ชาญฉลาด แม้มันจะเป็นแผนแบบเดิม ๆ ที่เคยใช้กัน และเสี่ยงที่จะถูกปฏิเสธ
นักปั่นชื่อก้องโลก ยังบอกอีกว่า ชัยชนะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเขา แต่การกล่าวอ้างว่าการใช้สารกระตุ้นครั้งนี้รุนแรงกว่าเหตุการณ์ใช้ สารกระตุ้นครั้งใหญ่ที่เยอรมนีตะวันออกในช่วงยุค 1970 และ 1980 เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง โดย อาร์มสตรอง บอกว่า การต่อสู้กับโรค มะเร็งในช่วงกลางยุค 1990 เปลี่ยนเขาให้กลายเป็นนักสู้ ช่วงก่อนหน้าที่เขาจะถูกวินิจฉัยว่าป่วยเป็นมะเร็ง เขาเป็นแค่หนึ่งในนักแข่งคนหนึ่งเท่านั้น มิใช่นักแข่งที่กระหายชัยชนะ เขาใช้ทุกวิธีการเท่าที่มีอย่างบ้าคลั่งเพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ ซึงเป็นสิ่งที่เลวร้าย
จนกระทั่งเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว องค์กรต่อต้านการใช้สารกระตุ้นสหรัฐฯ ประกาศในรายงานว่า อาร์มสตรองและเพื่อนร่วมทีมอีก 11 คน ใช้สารกระตุ้นโดยจงใจ โดยที่โค้ชและนักกายภาพประจำทีมรับทราบ และประณามว่าเป็นแผนการใช้สารกระตุ้นที่ชาญฉลาด มีความเป็นมืออาชีพ และประสบผลสำเร็จมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในวงการกีฬา
อย่างไรก็ตาม อาร์มสตรอง ปฏิเสธว่า นักแข่งทุกคนจะต้องยอมใช้สารกระตุ้นเพื่อที่จะได้ลงแข่งขัน แต่ยอมรับว่าบุคลิกภาพของเขาอาจทำให้ทุกคนต้องยอมทำตาม ทั้งนี้ เขาไม่ได้เปิดเผยชื่อลูกทีมที่ใช้สารกระตุ้น และยืนยันว่าเขาไม่ได้บังคับลูกทีมให้ใช้สารกระตุ้น แต่ยอมรับว่าในฐานะกัปตันทีม เขาได้ใช้ตนเองเป็นตัวอย่าง และเขามีนิสัยอันธพาลในแง่ของความพยายามในการควบคุมทุกเรื่อง และหากเขาไม่ชอบสิ่งที่บางคนพูด เขาก็จะจู่โจมทันที
เมื่อถามว่า ขณะที่ใช้สารกระตุ้น เขารู้สึกผิด และเคยรู้สึกหรือไม่ว่าตนเองกำลังโกง อาร์มสตรองตอบว่า "ไม่ แต่รู้สึกกลัว"
เขากล่าวต่อไปว่า สูตรของสารกระตุ้นประกอบด้วย Epoetin, การโด๊ปโดยวิธีการให้เลือด และฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน โดยก่อนหน้านี้ เขาเคยใช้ฮอร์โมนคอร์ติโซน (cortisone) มาแล้ว แต่ เขาเลิกใช้สารกระตุ้นหลังคว้าชัยชนะตูร์ เดอ ฟรองซ์ ในปี 2005 ซึ่งเป็นครั้งที่ 7 และไม่เคยใช้สารกระตุ้นที่ถูกสั่งห้ามในการแข่งขันเมื่อปี 2009 และปี 2010 ซึ่งเขาได้ที่ 3
ทั้งนี้ สำหรับการสัมภาษณ์ครั้งนี้เป็นตอนแรก โดยอีกตอนหนึ่งจะฉายในเวลา 21.00 น. ของวันศุกร์ที่ 18 มกราคมตามเวลาท้องถิ่น (เวลา 9.00 น. ของวันที่ 19 มกราคม ตามเวลาประเทศไทย) อย่างไรก็ตาม โอปราห์ เผยกับสำนักข่าวซีบีเอสด้วยว่า การสัมภาษณ์ครั้งนี้ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยทำมา เธอถามคำถามไปถึง 112 ข้อ บรรยากาศค่อนข้างตึงเครียด จนอาร์มสตรองต้องขอระหว่างพักเบรกให้เพลา ๆ ลงหน่อย แม้เธอจะไม่ได้รับคำตอบหมดทุกคำถาม แต่เธอคิดว่าคำถามและคำตอบสำคัญที่สุดที่คนทั่วโลกรอคอยได้รับคำตอบแล้ว แม้จะไม่ได้สารภาพหมดเปลือก แต่หลายคำตอบของเขาก็ทำให้เธอและทีมงานถึงกับตะลึงเลยทีเดียว
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Lance Armstrong, MANDEL NGAN / AFP