Starbucks มีรายได้ปี 2010 ที่ผ่านมาจำนวน 10.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
มีจำนวนร้านค้ารวม 17,651 ร้านใน 60 ประเทศ (ข้อมูล 1 กค 2012)
Starbucks มีภาพลักษณ์ชัดเจนว่าเป็นร้านกาแฟชั้นนำของโลก
ยักษ์ใหญ่ร้านกาแฟเพิ่งฉลองครบรอบ 40 ปีสองปีก่อน (เปิด 1971)
แต่ก็ไม่มีอาการแสดงว่ากำลังจะชะลอธุรกิจตัวลง
และแล้วเมื่อแบรนด์ของตนเองได้รับการยอมรับทั่วทุกมุมโลกแล้ว
จึงไม่จำเป็นต้องระบุชื่อของตนบนถ้วยกาแฟอีกต่อไป
ในไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ ได้มีประกาศความร่วมมือใหม่กับ
ร้านกาแฟ อื่น ๆ และร้านขายของชำ
รวมทั้งวางแผนที่จะเข้าไปอยู่ในกลุ่มเครือข่ายสังคม (facebook twitter)
เพื่อทำการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มเครือข่ายสังคม
ในร้านค้าบางร้านสามารถเติมเหล้าลงในถ้วยกาแฟ
แรงผลักดันที่จะขยายตัวในต่างประเทศแบบเชิงรุก
หมายความว่า ภายในอีกห้าปีถัดไป
จะเห็น Starbucks ในประเทศจีนมากพอ ๆ กับในนิวยอร์กซิตี้
![](http://www.bloggang.com/data/r/ravio/picture/1355102481.jpg)
Starbucks จะเปิดร้านโดยเฉลี่ยวันละสองร้านตั้งแต่ปี 1987
![](http://www.bloggang.com/data/ravio/picture/1355102694.jpg)
Santa Fe Springs ในรัฐ California
มีร้าน Starbucks มากที่สุด
จำนวน 560 ร้านในพื้นที่ 25 ตารางไมล์
![](http://www.bloggang.com/data/ravio/picture/1355102892.jpg)
Starbucks มีหุ้นส่วนจำนวน 137,000 คนในปี 2010
แทนการเรียกคำว่า พนักงานบริษัท
มีจำนวนเป็นสองเท่าของประชากรในเกาะ Greenland
![](http://www.bloggang.com/data/ravio/picture/1355103162.jpg)
Starbucks เปิดร้านกาแฟร้านแรกในมหานครปักกิ่งในปี 1999
ตอนนี้มีร้านกาแฟถึง 376 ร้านในประเทศจีน
ตั้งเป้าหมายว่าจะเปิดร้านกาแฟให้ได้ 1,000 ร้านในปี 2015
หมายเหตุ เปิดนอกทวีปอเมริกาเหนือครั้งแรกที่ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ 1996
ที่ไทย 1998 หลังฟิลิปปินส์ 1 ปี
ไทย เปิดสาขาพร้อมกับ อังกฤษ มาเลย์ นิวซีแลนด์ ไต้หวัน
ลูกค้าทั่วไปเข้าไปใช้บริการร้านกาแฟ Starbucks เฉลี่ยเดือนละ 6 ครั้ง
ขณะที่ลูกค้าที่ชอบในแบรนด์ Starbucks จำนวนร้อยละ 20
จะเข้าไปใช้บริการร้านกาแฟ Starbucks เฉลี่ยเดือนละ 16 ครั้ง
Starbucks ให้บริการเครื่องดื่มในรูปแบบต่าง ๆ
ที่ลูกค้าต้องการได้ประมาณ 87,000 วีธี
หมายเหตุ มีกาแฟให้บริการมากว่า 30 แบบ
และ single original premium coffees
(เช่น กาแฟ การผสม ชาผสมกาแฟ ใส่เครื่องปรุงแบบไหน ฯลฯ)
Starbucks เริ่มต้นขายกาแฟถ้วย 8 ออนซ์ครั้งแรกในซีแอตเติล Seattle
ในช่วงธุรกิจขยายตัวได้เพิ่มถ้วยกาแฟเป็น 12 ออนซ์และ 16 ออนซ์
ต่อมาได้เลิกการขายถ้วยกาแฟแบบ 8 ออนซ์
แล้วเพิ่มถ้วยกาแฟแบบออนซ์ 24
และในที่สุดเป็นถ้วยกาแฟแบบ 30 ออนซ์ Trenta
![](http://www.bloggang.com/data/ravio/picture/1355104200.jpg)
ถ้วยกาแฟแบบ Trenta มีขนาดใหญ่กว่ากระเพาคนเราเล็กน้อย
เพราะมันจุเครื่องดื่มได้ถึง 916 มิลลิลิตร
ขณะที่กระเพาะของคนเราเฉลี่ยเพียง 900 มิลลิลิตร
![](http://www.bloggang.com/data/ravio/picture/1355104415.jpg)
Starbucks แบบ grande coffee
จะมีประมาณคาเฟอีนถึง 320 มิลลิตร
เทียบเป็นจำนวนสี่ีเท่าของปริมาณคาเฟอีนของกระทิงแดง (Red Bull)
![](http://www.bloggang.com/data/ravio/picture/1355104615.jpg)
Starbucks มีขนมปังสโคน cinnamon ที่ตัดแบ่งขาย
มีปริมาณแคลลอรีมากกว่า McDonald's ขนาดหนึ่งส่วนสี่ชิ้น
เป็นจำนวนถึง 480 แคลลอรี่
![](http://www.bloggang.com/data/ravio/picture/1355104953.jpg)
Starbucks มีร้านกาแฟที่ตั้งอยู่ในสถานที่ห่างไกลที่สุด
คือ ร้านกาแฟ Starbucks ที่ Adak รัฐ Alaska
จะต้องเดินทางเป็นระยะทางถึง 1,044 ไมล์
สำหรับการสั่งเครื่องดื่ม เช่น frappucino (บรรจุขวดเริ่มผลิตปี 1996)
![](http://www.bloggang.com/data/ravio/picture/1355105151.jpg)
Starbucks จ่ายเงินถึง 300ล้านเหรียญสหรัฐ (ปี 2010)
เพื่อประกันสุขภาพให้กับหุ้นส่วน(พนักงาน)
มากกว่าค่าเมล็ดกาแฟที่ขายในร้าน
(กำไรเบื้องต้นสูงมาก เพราะต้นทุนสินค้าต่ำมาก แต่ไปจ่ายมากกับค่าบริหาร)
![](http://www.bloggang.com/data/ravio/picture/1355105325.jpg)
Starbucks ใช้น้ำนมมากกว่า 93 ล้านแกลลอนต่อปี
เพียงพอสำหรับการใส่ลงในสระว่ายน้ำโอลิมปิคถึง 155 สระ
![](http://www.bloggang.com/data/ravio/picture/1355105464.jpg)
Starbucks ต้องใช้ถ้วยกาแฟถึง 2.3 ล้านล้านถ้วยต่อปี
![](http://www.bloggang.com/data/ravio/picture/1355105563.jpg)
เจ้าของ Starbucks คนแรกจะใช้ชื่อ Pequod
ขายกิจการให้กับคนปัจจุบันในปี 1981
เป็นชื่อของเรือในหนังสือ Moby Dick
แทนที่จะเลือกชื่อตัวละครที่ชื่อ Starbucks
![](http://www.bloggang.com/data/ravio/picture/1355105732.jpg)