โดยใช้ว่ากล่าวตักเตือนข้อหานอกเหนือ 13 ข้อหาหลัก ที่ส่งผลให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดและสร้างความเดือดร้อนของประชาชน ได้แก่ แข่งรถในทาง ขับรถเร็ว แซงในที่คับขัน เมาแล้วขับ ขับรถย้อนศร ไม่สวมหมวกนิรภัย จอดรถซ้อนคัน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มลพิษควันดำ จอดรถในที่ห้ามจอด การจอดรถบนทางเท้า การขับรถบนทางเท้า แท็กซี่ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร ทั้งนี้เมื่อเจ้าหน้าที่ออกใบเตือนไปแล้ว จะมีการบันทึกข้อมูลไว้ หากพบทำผิดซ้ำในข้อหาเดิม จะดำเนินการจับปรับในอัตราสูงสุดทันที
{youtube width="350" height="270"}c7tZ1DB7pAA{/youtube}
ส่วนข้อหาเรื่องแท็กซี่ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร มีประชาชนสงสัยว่า หากเจอแท็กซี่ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร จะแจ้งตำรวจจับได้อย่างไรนั้น ขอชี้แจงว่า กรณีดังกล่าวประชาชนสามารถแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยืนจัดการจราจรอยู่ บริเวณดังกล่าวให้จับปรับได้ทันที โดยมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท แต่หากไม่มีตำรวจอยู่แถวนั้น ให้แจ้งข้อมูลทะเบียนรถ เวลาและสถานที่ที่เกิดเหตุไปที่หมายเลข 1197 หรือแจ้งที่จราจรตาเพชร http://www.trafficpolice.go.th ก็จะมีการเก็บรวบรวมข้อมูลไว้ แต่ไม่สามารถดำเนินคดีได้ โดยแต่ละท้องที่จะนำข้อมูลที่ได้รับการร้องเรียนมาพิจารณาเพื่อจัดกำลังออก ตรวจตราให้บ่อยขึ้น ตามนโยบายของ พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) รับผิดชอบงานจราจร ที่ให้แต่ละท้องที่ลงพื้นที่จัดการจราจรและอำนวยความสะดวกให้ประชาชนอย่าง เต็มที่.