แพทย์แผนไทย โคราช รักษาโรค SLE ไขความลับวิธีรักษาโรคแพ้ภูมิตัวเองหรือโรคพุ่มพวง ( SLE)
รถตู้ให้เช่า ร้อยเอ็ด
หมอเอ ณัฐปราชญ์ คลินิก
spouseจากกระแสร้อนแรงของละครแรงเงา ที่สะท้อนปัญหามีชู้ นอกใจ ที่เปรียบเหมือนเหล็กแหลม คอยทิ่มแทงความรู้สึกของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้เจ็บปวด ทุกข์ทรมาน ทำให้ครอบครัวร้อนเป็นไฟ ถึงกับตกอยู่ในสภาพ "บ้านแตก" ได้ในพริบตานั้น

  หากจะพูดกันบนพื้นฐานความเป็นจริง ถึงวิธีแก้ปัญหาให้เรื่องมือที่สาม มีชู้ นอกใจ ลดน้อยลงในสังคม ก็ต้องบอกว่า ยากมาก และไม่มีวิธีใดที่ "ง่าย" เลย ยิ่งการบอกให้ใครคนใดคนหนึ่งต้อง "ตัดใจ" ที่ใครชอบบอก ชอบแนะนำให้ทำกันนั้น มันก็ไม่ได้ทำได้ง่ายๆ เหมือน "ตัดเชือก" นี่หน่า

แต่ที่น่าสนใจ ก็คือ วันนี้เรามีข้อคิดดีๆ ที่น่าจะเป็นการ "ตัดไฟ" ตั้งแต่ต้นลม ซึ่งน่าจะทำได้ไม่ยากนัก จาก "ดังตฤณ" หรือ "ศรันย์ ไมตรีเวช" ผู้เขียนหนังสือ เสียดาย...คนตายไม่ได้อ่าน, รักแท้มีจริง, ความรักหลากสี, คำตอบ ใน facebook ฯลฯ หนึ่งในผู้สร้างเทรนด์ให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจธรรมะ และเป็นหนึ่งในผู้ให้คำปรึกษาปัญหาชีวิต ที่มีคนเขียนไปปรึกษาปัญหาความรักมากมายมาฝากกัน สำหรับใครที่ไม่อยากตกอยู่ในวังวนนี้

เริ่มจากสิ่งแรกที่ผู้หญิงควร รู้ไว้ก็คือ ผู้ชาย ผู้หญิง "คิดต่าง" กัน และรู้สึกต่างกัน โดยเฉพาะความคิด ความรู้สึก ที่นำไปสู่ปัญหาภรรยาน้อย
spouse
"ใน เรื่องปัญหาเมียน้อยนั้น ก่อนอื่นเราต้องมองว่า มันมีพื้นฐานจากความต้องการทางเพศเป็นหลัก นี่คือ ธรรมชาติของผู้ชาย คือผู้ชายต้องการเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่ผู้หญิงต้องการมีแค่คนเดียว มันต่างกันที่ธรรมชาติอยู่แล้ว ผู้ชายรักสนุก ในขณะที่ผู้หญิงรักความอบอุ่น ถ้าเรามองว่าปัญหาเกี่ยวกับเมียน้อย มันเกี่ยวกับความต้องการทางเพศ ผู้ชายที่มีเมียน้อย เขาไม่ได้ต้องการผู้หญิงที่ดีกว่าภรรยาของตัวเองในแง่นิสัย แต่ต้องการสีสัน ต้องการความเปลี่ยนแปลง"



"หลายๆ คนยังรัก ยังเทิดทูนภรรยา แต่อยากได้สีสัน อยากได้รสชาติใหม่ๆ เราต้องมองว่า ในเรื่องความต้องการทางเพศ แรกๆ ฝ่ายชายจะมองว่า การได้แตะต้องหญิงอื่น มันได้ล่วงเกิน ได้สนุกกับการจับต้องของที่ไม่ใช่ของของตน ของต้องห้ามมันมีความสนุก แต่พอได้มา มันจะกลายเป็นความรู้สึกเป็นหน้าที่ต้องทำความสุขให้ภรรยา และผู้หญิงพอถูกใครครอบครองไปแล้ว จะรู้สึกว่า ราคาตก ยิ่งเป็นของใครนานเท่าไร ยิ่งไม่น่าดึงดูด"

ดังตฤณ ยังบอกถึง "ความคิดอันตราย" ที่ผู้หญิง ซึ่งตกอยู่ในที่นั่ง "คนมาสาย" หรือตกเป็น ภรรยาน้อยของใครไปแล้วว่าคือ ความคิดว่า ผู้ชายกำลัง "หลง" ตัวเองอยู่ สุดท้ายแล้วก็ต้องทิ้งภรรยามาอยู่กับตัวเองจนได้ เป็นความคิดที่ยิ่งทำให้ ถลำตัวลึก จนถอนตัวไม่ขึ้น
spouse
"ผู้หญิงจะ เชื่อมั่นตัวเองว่า เดี๋ยวจะดึงฝ่ายชายมาเป็นของตัวเองได้ จะเป็นความเชื่อขั้นพื้นฐานเลย โดยรู้สึกว่า ฝ่ายชายกำลังหลงตัวเองมากแล้วธรรมดาของผู้หญิงจะรู้สึกว่า อย่างนี้เสร็จแน่ ยังไงก็เป็นของเราแน่ เราไปบีบให้เขาหย่าที่หลังได้ คือพอไปตั้งความเชื่ออย่างนั้น ก็มาพบความจริงภายหลังว่า ตัวเองก็ถูกแทนที่ได้เหมือนกัน ผู้ชายถ้ายอมให้ภรรยาที่มีลูกกับตัวเองถูกแทนที่ได้ เขาก็พร้อมจะโดนแทนที่ไปเรื่อยๆ ให้ใครมาเสียบแทนไปเรื่อยๆ นี่ คือข้อเท็จจริง"

ข้อเท็จจริง อีกอย่างที่ ดังตฤณ เล่าจากประสบการณ์ที่มีแฟนๆ เขียนมาปรึกษาปัญหาความรักก็คือ

"เมีย น้อยหลายคนต้องการกำลังใจ ต้องการวิธีที่จะเลิก อันนี้เป็นแง่มุมที่คนส่วนใหญ่มองไม่เห็น จะเห็นแต่ว่า ทำแบบนี้มันเลวนะ แต่จริงๆ เมียน้อยหลายคนตกไปอยู่ในฐานะของเมียน้อยเพราะถูกหลอก พอรู้ว่า ถูกหลอก ก็เกินกว่าจะถอนตัวแล้ว เพราะมีความผูกพันทางใจ เรื่องของความสะดวกสบายที่ได้รับ เรื่องของความรู้สึกว่า คนนี้ใช่ คือทั้งสองฝ่าย ต่างรู้สึกว่า ใช่ แต่ฝ่ายชายเพิ่งมาเปิดเผยว่า มีภรรยาแล้ว ซึ่งเมียน้อยหลายคนที่มีการศึกษาเป็นถึงดอกเตอร์หรือรวยกว่า เมียหลวง ก็มี"

ส่วนใครที่มีความคิดว่า การตกเป็นเมียน้อยอาจเป็นเรื่องของ กรรมเก่า หรือเปล่า ดังตฤณ มีข้อคิดที่น่าสนใจว่า

"ในกรณีของเมียน้อย ถ้าพูดกันตามหลักของกรรมวิบาก เป็นกรรมใหม่มากกว่ากรรมเก่า ในกรณีที่เลือกได้ ซึ่งเกินกว่าครึ่ง มันมีการตัดสินใจว่า จะเอา หรือ ไม่เอา ถ้ามีการตัดสินใจแบบนี้ แสดงว่า กรรมเก่าไม่ได้บีบมาว่าต้องเป็นเมียน้อย มันขึ้นอยู่กับสิทธิในการเลือกของคุณแล้วว่า คุณต้องการจะกินน้ำใต้ศอกหรือเปล่า"
spouse
"แต่บางคนเราต้อง ยอมรับว่า ถูกหลอกว่ายังไม่มีเมีย หรือที่เจอบ่อยที่สุดก็คือ บอกว่า เลิกกันแล้ว กำลังจะหย่ากันแล้ว แต่ปีหนึ่งก็แล้ว สองปีก็แล้ว ที่บอกว่าจะเลิกก็ไม่เลิกสักที ฝ่ายชายมักจะมีข้ออ้างว่า ภรรรยาไม่ยอมหย่า ลักษณะนี้ เขาเรียกว่า ถูกบีบมา คือเหมือนกับไม่ได้ตั้งใจจะเป็นเมียน้อย แต่ตกอยู่ในฐานะของเมียน้อยด้วยการถูกหลอกลวง"

แต่ไม่ว่าอย่างไร ทุกคนมีสิทธิเลือกทางเดินชีวิตให้กับตัวเองทั้งนั้น สำหรับใครที่อาจกำลังยืนอยู่บนทางสามแพร่ง กำลังเริ่มพูดคุย ใกล้ชิดกับคนที่มีเจ้าของ ดังตฤณ มีข้อคิดว่า ถ้าหากรู้ตัวว่าเขามีเจ้าของแล้ว และรู้ตัวว่า เราเริ่มมีใจให้กับเขา เราต้องไม่เปิดโอกาสให้มีการสานสัมพันธ์ต่อไป

"การ ที่เรากำลังคุยกับใคร ทั้งที่รู้ว่าเรามีใจกับเขา นี่ก็เป็นต้นเหตุของความทุกข์ อันยากจะถอนตัวแล้ว ถ้าหากว่า เราได้กลิ่นควันไฟ ก็ยังไม่สาย ที่จะถอนตัวตั้งแต่ยังต้นลม แต่ถ้าหากว่า เรายังคิดแต่ว่าไม่เป็นไร ยังไม่ผิดศีล ในที่สุดเราก็จะเอาตัวเข้าไปผูกรัดอยู่กับบ่วงทุกข์ หลักการง่ายๆ ถ้ารู้ว่า มีใจอยู่กับใคร แล้วรู้ว่าเขามีแฟนหรือภรรยาอยู่แล้ว อย่าไปต่อ อย่าไปพูด มันต้องใช้การหักดิบ ซึ่งอาจทำยากตรงที่เราอนุโลมตัวเองให้พูด ให้คุยไปสักระยะทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่า มันมีใจ แต่ก็ยังขืนคุย มันก็จะมีเงื่อนไขที่ยากขึ้นไปอีก"

แล้วก็จะต้องเจอทุกข์ใจแสนสาหัส รออยู่เบื้องหน้าแน่นอน !!!

 

ที่มา:http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1352777222&grpid=01&catid=&subcatid=


Go to top