แพทย์แผนไทย โคราช รักษาโรค SLE ไขความลับวิธีรักษาโรคแพ้ภูมิตัวเองหรือโรคพุ่มพวง ( SLE)
รถตู้ให้เช่า ร้อยเอ็ด
หมอเอ ณัฐปราชญ์ คลินิก

b   นิยายเรื่องเพชรพระอุมาเป็นนิยายเล่มโปรดเรื่องหนึ่งที่เราชื่นชอบ เป็นนิยายที่ใครก็ตามที่รักการอ่านได้อ่านแล้ว จะไม่สามารถวางได้ลง มันเป็นนิยายที่ชวนให้ติดตาม อยากรู้เรื่องราวตอนต่อไป เราอ่านเรื่องนี้ทั้ง 2 ภาพมาหลายรอบแล้ว จริง ๆ แล้วเราเห็นนิยายเรื่องนี้ครั้งแรกในห้องสมุดของโรงเรียน ตอนที่เราเรียนอยู่ชั้นมัธยม แต่มันมีไม่ครบและหน้าปกหนังสือไม่ค่อยสวย ไม่มีรูปภาพบนปก ทำให้ไม่น่าดึงดูดใจ

 พอเข้าเรียนชั้นปวช. เรารู้จักเพื่อนคนหนึ่งที่รักการอ่านหนังสือเหมือนกัน เขาแนะนำให้อ่านเรื่องนี้ แต่ที่ร้านหนังสือให้เช่าที่เราเป็นสมาชิกมีหนังสือเรื่องนี้ไม่ครบชุด เราก็เลยไม่อยากอ่าน แล้วก็ลืมเรื่องนี้ไป

แต่พอเรียนจบมหาวิทยาลัย ได้งานทำแถวเซ็นทรัลลาดพร้าว ที่ชั้นใต้ดินของที่นี่จะมีร้านหนังสือที่ขายทั้งหนังสือเก่าและใหม่ขาย เราเดินทางหนังสือใหม่ ๆ มาอ่าน แต่หนังสือใหม่ที่น่าสนใจสำหรับเรามันผลิตออกมาไม่ทันให้เราอ่านเลย... จนต้องไปเริ่มหาหนังสือที่ออกมานานแล้วแต่น่าสนใจอ่านแทน เราเห็นเรื่องเพชรพระอุมาวางเรียงโชว์อยู่บนชั้นหนังสือในร้าน เลยหยิบขึ้นมา แล้วคนขายก็แนะนำให้อ่าน ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีเรื่องอื่นน่าสนใจ เราเลยติดสินใจซื้อมาลองอ่าน 1 ตอน (มี 4 เล่ม) เราเสียดายมากที่ตอนนั้นเราไม่เห็นชุดที่เขาผลิตออกมาเป็นแพ็คที่ใส่กล่องเปลือยดูสวยงาม น่าเก็บสะสม คนขายดันหยิบรุ่นที่เป็นหนังสือปกแข็ง ภาพวาดแบบโบราณ ๆ ให้ ไม่กล่องใส่ให้ แต่ชุดถัดไป เราซื้อเป็นแบบใส่กล่องมา

 

 

อันนี้เป็นหน้าปกของเพชรพระอุมาเวอร์ชั่นเก่า ภาพนี้เป็นภาพบนปกหน้า กับ ปกหลังตอนแรก คือ ตอน "ไพรมหากาฬ" มีทั้งหมด 4 เล่ม ปกหลังเซ็กซี่มาก ๆ ถ้าเวลาอ่านถือหนังสือตั้งขึ้นนี้ เวลาคนอื่นเห็นคงนึกว่าเราอ่านหนังสือแนววาบหวามแน่ ๆ เลย

เรื่องเพชรพระอุมา แต่งโดย คุณพนมเทียน ปัจจุบันนี้ออกมา 2 ภาค แต่ละภาคจะมีหลายตอนด้วยกัน เป็นเรื่องการผจญภัยของคนกลุ่มหนึ่ง ที่ต้องไปผจญในป่า กับ เรื่องราวที่น่าเหลือเชื่อหลาย ๆ อย่างที่ไม่มีใครคิดว่าจะมีในโลกนี้

 

 

 

ภาพข้างบนนี้เป็นภาคแรก คือ ภาคตำนานไพร จะมีทั้งสิ้น 6 ตอนด้วยกัน คือ "ไพรมหากาฬ" "ดงมรณะ" "จอมผีดิบมันตรัย" "อาถรรพณ์นิทรานคร" "ป่าโลกล้านปี" "แงซายจอมจักรา"

 

 

แต่ละตอนจะมีทั้งหมด 4 เล่ม ซึ่งรวมทั้งภาคหนึ่งก็มีทั้งหมดประมาณ 24 เล่มด้วยกัน ตอนหนึ่งก็ประมาณ 1,400 หน้า ดังนั้นหนึ่งภาคนี้ก็มีทั้งสิ้นประมาณ 33,600 หน้า อันนี้แค่ประมาณเท่านั้นนะคะ

 

 

อันนี้ภาคสองค่ะ คือ ภาคมงกุฎไพร มีทั้งหมด 5 ตอนด้วยกัน คือ 'จอมพราน' 'ไอ้งาดำ' 'นาคเทวี' 'แต่ปางบรรพ์' 'มงกุฎไพร'

 

 

แต่ละตอนจะมีทั้งสิ้น 5 เล่มด้วยกัน ทั้งภาคจะมีทั้งสิ้น 25 เล่ม แต่ละตอนจะมีความหนาไม่เท่ากัน แต่โดยประมาณแล้วแต่ละตอนจะมีจำนวนหน้าอยู่ประมาณ 1,500 - 1,750 หน้าต่อตอน ซึ่งถ้ารวมจำนวนหน้าทั้งสิ้นของภาคสองนี้ก็มีประมาณ 7,500 - 8,750 หน้าด้วยกัน

 

สำหรับเราแล้ว เราชอบภาคแรกมากกว่าภาคที่สองนะคะ เพราะภาคที่สอง ส่วนใหญ่จะใช้เหตุการณ์จากภาคแรกนำมาเขียนต่อยอด และ พระเอกของเราค่อนข้างอ่อนแอในเรื่องของสุขภาพ และที่สำคัญ พระเอกกับนางเอก ไม่ได้เดินทางไปด้วยกัน เรื่องเลยค่อนไม่ค่อยน่าลุ้น หรือ ตื่นเต้นมากนัก ความรู้สึกในการอ่านภาคที่สอง ก็เหมือนกับตอนที่เราดูหนังเรื่อง จูราสสิค พาร์ค ภาคแรก ที่จะตื่นตา ตื่นใจกับเหล่าไดโนเสาร์ทั้งหลาย แต่พอมาภาคสอง ความตื่นเต้น มาน้อยลงไปมาก จนเราไม่ค่อยสนุกกับมันเท่าไร

แต่เราก็ยังอ่านแต่ละภาคไปภาคละ 3 รอบแล้วค่ะ พออยากอ่านก็นำขึ้นมาอ่านได้อีก ...เรื่องนี้พระเอกของเราเป็นผู้ชายที่ไม่หล่อ ตัวเล็ก ที่พออยู่ในที่ชุมชน จะเป็นผู้ชายที่ธรรมดามาก ๆ เป็นผู้ชายที่ผู้หญิงหลาย ๆ คนเห็นแล้ว ไม่รู้สึกเลยว่าผู้ชายคนนี้เท่ มีเสน่ห์ แต่ ถ้ามีโอกาสได้ไปผจญภัยด้วยกันในพงไพรแล้วละก็ อย่าว่าแต่ผู้หญิงเลย ผู้ชายด้วยกันเองยังรู้สึกเลยว่าผู้ชายคนนี้โคตรเท่ มีเสนห์มาก กลายเป็นคนละคนกับตอนที่อยู่ในบริเวณชุมชนที่เจริญแล้วเลย

 

 

 

ส่วนนางเอกของเรา เป็นคนสวย มีความมั่นใจในตัวเองสูงตามสไตล์คนที่เกิดมาในสังคมชั้นสูง...ตอนแรกก็ดูเป็น ผู้หญิงที่น่าจะไม่มีความสามารถมากนัก แต่พอเข้าไปผจญภัยในป่าแล้ว นางเอกเราไม่ธรรมดาเลยค่ะ ด้านหนึ่งก็เป็นนักแม่นปืนที่ยิงปืนได้แม่นมาก แต่อีกด้านหนึ่งก็เป็นแม่ครัวที่ทำอาหารอร่อยมาก....

ชอบอ่านตอนที่พระเอกกับนางเอกอยู่ด้วยกันสองต่อสอง โดยเฉพาะตอนหลงทางกับคนอื่น ๆ เพราะจากที่ชอบทะเลาะกันเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น กับกลายเป็นหวานกันซะไม่มี...อ่านแล้วชอบมากค่ะ

 

 

ตัวละครอีกตัวที่ชอบมากคือ 'แงซาย' กษัตริย์นอกบัลลังค์ของเรานี่เอง ที่แอบปลอมตัวขอเข้าร่วมทีม เพื่อเดินทางกลับไปกู้บ้านกู้เมืองของตนเองนั่นเอง ที่สำคัญ พ่อแงซายของเรานี่หล่อขั้นเทพเลย ชอบหักเหลี่ยมเฉือนคมกับพระเอกของเราเป็นประจำ แต่สุดท้ายก็นับถือกันเป็นพี่น้องกับพระเอกของเราในที่สุด

 

ที่ชอบอีกอย่างคือความเชื่อใจ วางใจกันระหว่างผู้ร่วมผจญภัยด้วยกัน ไม่เลือกว่าจะเป็นใคร อยู่ระดับไหน เรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่เราเก็บไว้เป็นหนังสือสะสมเล่มโปรด

 

ขออนุญาตยกคำของผู้เขียนคือคุณพนมเทียน ที่เขียนไว้ที่หน้ากล่องถึงเรื่องหนังสือเพชรพระอุมา มาลงนะคะ มันเป็นบทสรุปที่อ่านแล้ว...นี่แหละคือคำที่สามารถสรุปใจความสำคัญของเรื่องเพชรพระอุมาได้ดีจริง ๆ

 

"ด้วยระยะเวลาอันยาวนาน ด้วยวิญญาณและกายใจที่ทุ่มเท สู่ทุกบรรทัด ทุกตัวอักษรของ 'เพชรพระอุมา'

เรื่องราวของ รพินทร์ ไพรวัลย์, ม.ร.ว. ดาริน วราฤทธิ์, แงซาย, ม.ร.ว. เชษฐา วราฤทธิ์, ไชยยันต์ อนันตรัย, มาเรีย ฮอฟมัน และเหล่าพรานมือฉมัง บุญคำ-จัน-คะหยิ่น-ส่างป่า-เกิด-เส่ย

จึงเป็นเสมือนตำนานไพร ที่ครองหัวใจผู้อ่านไว้อย่างแนบแน่น ยาวนาน ด้วยรสชาติแบบไทย ๆ ด้วยความเร้าใจทั้งจังหวะและลีลารับ ด้วยความรักที่หอมหวาน และรุนแรง ด้วยความอหังการ์ของสุภาพบุรุษไพร และด้วยความสนิทใจ วางใจ เชื่อใจ ที่ฝากไว้ให้กันและกัน

โดยเฉพาะกับจอมพรานอันเป็นตำนานคู่กับ 'เพชรพระอุมา' นาม 'รพินทร์ ไพรวัลย์' และมิ่งขวัญ 'ดาริน วราฤทธิ์' "

โดย พนมเทียน

ที่มา:http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=baan-nana&month=20-09-2012&group=2&gblog=3

 

 
Go to top