สิ้นสุดการแข่งขันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับรายการ "The Voice" Thailand เสียงจริง ตัวจริง เมื่อวันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม ที่ปิดฉากในรอบ Final กับการแข่งขันร้องเพลง จากผู้เข้ารอบ 4 คนสุดท้าย ได้แก่ TV01 นนท์ จากทีม โค้ชก้อง สหรัฐ สังคปรีชา ซึ่งร้องเพลง ,TV02 คิง จากทีม โค้ชแสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข TV03 เก่ง จากทีมโค้ชโจอี้ บอย และ TV04 ต๊ะ จากทีม เจนนิเฟอร์ คิ้ม
ซึ่งแต่ละผู้เข้ารอบ ต่างโชว์ความสามารถในการร้องเพลง ซึ่งเป็นเพลงที่แต่งขึ้นมาใหม่ สำหรับผู้เข้ารอบสุดท้ายทั้ง 4 อย่างสุดพลัง พร้อมกับการแสดงร่วมกับโค้ชทั้งสี่ โดยในรอบนี้ เรียกเสียงกรี๊ดจากผู้ชมในห้องส่ง และเสียงโหวต จากผู้ชมทางบ้านไปได้อย่างสุดมันส์ตามแต่ละสไตล์ความถนัดของตัวเอง
สำหรับ ผู้ที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุด ได้เป็น The Voice คนแรกของประเทศไทย ได้แก่ น้องนนท์ TV01 ธนนท์ จำเริญ จากทีม โค้ชก้อง เด็กหนุ่มวัย 16 ปี จากจังหวัดภูเก็ต ที่ร้องเพลง "ยังไม่เคย"
ส่วน เก่ง ธชย TV03 จากทีมโค้ชโจอี้ บอย ซึ่งร้องเพลง ทศกัณฐ์มานะ ได้ผลโหวตเป็นอันดับที่สอง
สำหรับการคว้าแชมป์ ในครั้งนี้ทำให้ "นนท์ - ธนนท์" นักเรียนชั้น ม. 4 โรงเรียนสตรีภูเก็ต คว้ารางวัลเป็นเงินสด 1 ล้านบาท และรถยนต์โตโยต้า พรีอุส 1 คัน พร้อมเซ็นสัญญาเป็นศิลปินกับทาง บริษัท ทรู มิวสิค เพื่อออกอัลบั้มเดี่ยว รวมถึงได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ของ The Base Condominium อีกด้วย
รายการ The Voice เป็นการประกวดร้องเพลงที่โด่งดังเป็นปรากฏการณ์ระดับนานาชาติ ออกอากาศแล้วในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก โดยมีต้นกำเนิดจากประเทศฮอลแลนด์ คิดค้นโดย จอห์น เดอ โมล เจ้าพ่อเรียลลิตี้โชว์ เป็นการประกวดเพื่อค้นหาศิลปินนักร้องหน้าใหม่ที่ไม่เหมือนใคร เพราะพิจารณาจากสิ่งสาคัญที่สุดของการร้องเพลง นั่นคือ "เสียง" เท่านั้น
สำหรับ The Voice ไทยแลนด์ได้ศิลปินตัวจริงในวงการเพลง ได้แก่ เจนนิเฟอร์ คิ้ม, ก้อง สหรัฐ สังคปรีชา, โจอี้ บอย และ แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข มาเป็นโค้ช คอยคัดเลือกผู้เข้าแข่งขันเข้าสู่ทีมของพวกเขา เพื่อคอยให้คำาปรึกษาและพัฒนาทักษะทางด้านการร้องเพลง เพื่อเปลี่ยนผู้เข้าแข่งขันจากนักร้องเสียงดี สู่การเป็นศิลปินตัวจริงประดับวงการรูปแบบที่สดใหม่ของรายการ ประกอบด้วยการแข่งขัน 3 รอบ: Blind Audition, Battle Show และ Live Show
ในรอบ Blind Audition นี้ ผู้เข้าแข่งขันจะถูกคัดเลือกจากเสียงร้องเพียงอย่างเดียวเท่านั้น โดยเหล่าโค้ชจะนั่งหันหลังให้กับผู้เข้าแข่งขัน และเมื่อได้ยินเสียงร้องที่ถูกใจ โค้ชจะกดปุ่มเพื่อหมุนเก้าอี้หันหน้ากลับมาหาผู้เข้าแข่งขันเพื่อรับเข้าสู่ ทีม และเมื่อเหล่าโค้ชรวบรวมสมาชิกในทีมได้ครบแล้ว โค้ชจะคอยพัฒนาทักษะให้คำปรึกษาด้านการขับร้องแก่ผู้เข้าแข่งขัน มาสู่ในรอบ Battle การต่อสู้ที่แท้จริงจึงเริ่มขึ้น โดยโค้ชจะทำการจับคู่ลูกทีมมาประชันในการร้องเพลงเดียวกันต่อหน้าผู้ชมใน สตูดิโอ และโค้ชจะเป็นผู้ตัดสินว่า ใครจะอยู่ หรือใครจะไป มีเพียงผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะผ่านเข้าสู่รอบ Live Show ได้
ในรอบ Live Show นี้ ผู้เข้าแข่งขันของแต่ละทีมจะประชันกับผู้เข้าแข่งขันจากทีมอื่นๆในการแสดง ถ่ายทอดสดทั่วประเทศ โดยผู้ชมทางบ้านจะลงคะแนนโหวตเพื่อเลือกผู้เข้าแข่งขันที่ชื่นชอบให้ผ่าน เข้ารอบต่อไป และโค้ชเองก็ต้องเลือกผู้ที่ผ่านเข้ารอบต่อไปเช่นเดียวกัน จนถึงรอบสุดท้ายโค้ชแต่ละคนจะเหลือผู้เข้าแข่งขันเพียงคนเดียวเท่านั้น และผลตัดสินสุดท้ายจากการโหวตทั่วประเทศหลังการแสดงถ่ายทอดสด จะเป็นกำหนดว่าใครคือ The Voice เสียงจริง ตัวจริง
ที่มา:http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1355574836&grpid=&catid=08&subcatid=0801
