แพทย์แผนไทย โคราช รักษาโรค SLE ไขความลับวิธีรักษาโรคแพ้ภูมิตัวเองหรือโรคพุ่มพวง ( SLE)
รถตู้ให้เช่า ร้อยเอ็ด
หมอเอ ณัฐปราชญ์ คลินิก

ตามข้างกล่อง ข้างถุง หรือข้างกระป๋องของอาหารต่างๆ ที่เราซื้อมานั้น หากใครลองมาจับพลิกดูก็คงจะเห็นกรอบสี่เหลี่ยมที่เขียนเอาไว้ว่า "ข้อมูลโภชนาการ" ซึ่งก็คือการแสดงข้อมูลโภชนาการของอาหารนั้นๆ ในรูปของชนิดและปริมาณสารอาหาร นอกเหนือไปจากการระบุชื่อที่อยู่ผู้ผลิต วันผลิต น้ำหนักสุทธิ ที่ต้องระบุอยู่แล้ว โดยข้อมูลโภชนาการนี้มีทั้งแบบเต็มและแบบย่อด้วย


บางคนอ่านเจ้าข้อมูลโภชนาการแล้วก็ยังงงๆ อยู่ ไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร "108 เคล็ดกิน" จึงจะมาไขข้อข้องใจในฉลากโภชนาการแบบย่อให้ฟังกัน เริ่มจาก "หนึ่งหน่วยบริโภค" ก็หมายถึงปริมาณการกินหรือดื่มต่อครั้ง เช่น หนึ่งหน่วยบริโภค : 1 กล่อง (160 กรัม) หมายถึงกินครั้งละ 1 กล่องหรือ 160 กรัม แต่ถ้าเขียนว่า หนึ่งหน่วยบริโภค : 5 ลูก (150 กรัม) หมายความว่า กินครั้งละ 5 ลูกหรือ 150 กรัม ส่วน "จำนวนหน่วยบริโภคต่อภาชนะบรรจุ" หมายถึง ห่อ ขวด หรือกล่องนี้กินได้กี่ครั้ง เช่น จำนวนหน่วยบริโภคต่อกล่อง : 1 หมายความว่า สามารถกินหมดกล่องภายใน 1 ครั้ง แต่ถ้าเขียนว่า จำนวนหน่วยบริโภคต่อกล่อง : 3 ก็หมายความว่า 1 กล่องให้แบ่งกินได้ 3 ครั้ง

ส่วน "คุณค่าทางโภชนาการต่อหนึ่งหน่วยบริโภค" หมายถึงเมื่อกินตามปริมาณที่ระบุไว้หนึ่งหน่วยบริโภคแล้วจะได้รับพลังงานและสารอาหารอะไรบ้าง ในปริมาณน้ำหนักจริงเท่าใด และปริมาณที่กินนี้คิดเป็นร้อยละเท่าไรของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน "ร้อยละของปริมาณที่แนะนำต่อวัน" หมายถึง สารอาหารที่ได้รับจากการกินแต่ละครั้งตามปริมาณที่ระบุไว้ในหนึ่งหน่วยบริโภคคิดเป็นสัดส่วนเท่าใดของปริมาณที่ควรจะได้รับต่อวัน เช่น ถ้าปริมาณอาหารที่กินต่อครั้งให้คาร์โบไฮเดรต 8% ของปริมาณที่แนะนำให้กินต่อวัน ก็ต้องกินคาร์โบไฮเดรตจากอาหารอื่นๆ อีก 92% และสุดท้าย "Thai RDI" หมายถึง ปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้กินต่อวันสำหรับคนไทยอายุ 6 ปีขึ้นไป เช่น วันหนึ่งๆ ควรได้รับคาร์โบไฮเดรตประมาณ 300 กรัม ไขมันน้อยว่า 65 กรัม เป็นต้น

 

Go to top