ฤดูกาลของการกิน “ปูขน” เวียนมาถึงอีกแล้ว ซึ่งปูขน เป็นปูน้ำจืดชนิดหนึ่ง มีลักษณะพิเศษตรงที่จะมีขนตรงบริเวณก้ามปู
และขาปู อาศัยอยู่ตามทะเลสาบในประเทศจีน เจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศหนาวและน้ำที่เย็นจัด โดยช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคม
นับว่าเป็นช่วงที่ปูขนมีความอุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การลิ้มรสชาติเป็นอย่างยิ่ง
แม้ว่าปูขนจะมีให้กินแค่ช่วงฤดูกาลสั้นๆ เท่านั้น แต่หากว่าใครอยากจะลิ้มลองรสชาติของปูขนดูสักครั้ง ขอชวนให้พากันมาได้ที่
“ภัตตาคารเชียงกรีลา” สาขาสีลม ได้เอาใจคอกินปูขนทั้งหลาย ด้วยการจัดเทศกาลปูขนขึ้นมา ให้นักกินได้มาลิ้มรสกันได้ตั้งแต่วันนี้ - เดือนธันวาคม
อร่อยลิ้นกับเมนูปูขน
สำหรับปูขนของที่นี่นำเข้ามาแบบเป็นๆ สดๆ มาจากเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนโดยเฉพาะ ถือว่าเป็นปูขนที่มีรสชาติดีที่สุด
เป็นปูขนที่อยู่ตามธรรมชาติในทะเลสาบหยางเฉินอู๋ ซึ่งเป็นน้ำที่ปลอดมลพิษ และมีอุณหภูมิเหมาะสมที่จะทำให้
ปูขนมีคุณภาพดี ซึ่งรัฐบาลจีนได้ให้การดูแลและคุ้มครอง เพื่อให้ได้ปูขนที่มีคุณภาพดีที่สุดไร้สารพิษ
การกินปูขน จะนิยมกินแบบนึ่งอย่างเดียว เพราะนำไปทำเมนูอย่างอื่นจะไม่ได้รสชาติปูขนที่ดี ทางร้านจะให้
ลูกค้าสามารถเลือกปูขนได้เอง ขายราคาตัวละ 740 บาท++ต่อตัว และมีโปรโมชั่นซื้อ 5 แถม 1 ถ้าจะมากินปูขน
ของที่นี่แนะนำว่าควรโทร. มาจองปูขนล่วงหน้าก่อน 2 วัน
ปูขนเป็นๆ ส่งตรงมาจากประเทศจีน
เมื่อสั่งปูขนแล้ว ทางร้านจะนำปูขนไปผ่านกรรมวิธีการนึ่งปูที่พิเศษเฉพาะ คือนำปูขนสดๆ มาล้างทำความสะอาด
แล้วนำไปนึ่งพร้อมกับใบหม่อน เพื่อดับกลิ่นคาวของปูและเพิ่มความหอม นึ่งปูประมาณ 7 นาที
จนสุกกระดองปูกลายเป็นสีส้ม และทางร้านจะแกะปูขนมาให้เสร็จสรรพง่ายต่อการกิน ก้ามเป็นก้าม
และแคะเนื้อปูมาเป็นส่วนๆ แล้วนำมาเรียงเป็นตัวปูใหม่อย่างสวยงามชวนกิน
การกินปูขนส่วนที่อร่อยที่สุด ต้องกินตรงมันปู จะมีมันเยิ้มๆ กินแล้วหอมมันอร่อยลิ้น ส่วนเนื้อปูจิ้มกินกับจิ๊กโฉ่วเซี่ยงไฮ้ใส่ขิง
เพิ่มความหอมกลมกล่อมกำลังดี และการกินปูขน จะต้องตบท้ายด้วยการซดน้ำขิงร้อนๆ กลั้วคอ เพราะเชื่อว่าปูขนมีฤทธิ์เย็น
ต้องปรับสมดุลด้วยฤทธิ์ร้อนจากขิง
หมูสามชั้น หมั่นโถว
แล้วก็ใช่ว่าจะมีแต่เมนูปูขนที่ชวนชิมเท่านั้น เพราะว่าที่นี่ยังมีเมนูอาหารจีนสไตล์กวางตุ้งสูตรโบราณให้ได้ลองลิ้ม
กันด้วย โดยมีเมนูที่ชวนชิมหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น หมูสามชั้น หมั่นโถว (300 บาท+) เมนูสไตล์กวางตุ้งของจีนแคะสูตรโบราณ
เป็นหมูสามชั้นคัดมาอย่างดีติดมันนิดหน่อย นำมาตุ๋นกับเครื่องเทศยาจีนหลายชนิด และผักฉ่อย
พร้อมกับปรุงรสตามสูตรเด็ด เคี่ยวตุ๋นรวมกันนาน 2-3 ชม. จนได้หมูสามชั้นเสิร์ฟมาร้อนๆพร้อมกับหมั่นโถวที่ทางร้านทำเอง
กินหมูสามชั้นเคี้ยวนุ่มเปื่อยกำลังดีออกรสเค็มนิดๆ กินเข้ากันดีกับหมั่วโถวเนื้อหวานนุ่ม
ไก่ผัดพริกแห้ง
ไก่ผัดพริกแห้ง (300 บาท+) เป็นเมนูโบราณที่ชวนชิม ทางร้านนำเนื้อไก่คัดเฉพาะส่วนเนื้ออกนุ่มๆ
มาผัดกับเม็ดมะม่วงหิมพานต์ กุ้งแห้งพริกแห้งทอด ปรุงรสตามสูตรเฉพาะ ผัดแบบขลุกขลิก
ลิ้มรสเนื้อไก่นุ่มได้รสชาติเครื่องปรุงเข้มข้นที่ซึมถึงเนื้อใน เคี้ยวเม็ดมะม่วงหิมพานต์เพลินปากเข้ากันดีกับไก่
เต้าหู้ทอดไข่กุ้ง
อีกหนึ่งเมนูโบราณที่ชวนลิ้มรส คือ เต้าหู้ทอดไข่กุ้ง (280 บาท+) เป็นเต้าหู้ขาวปรุงรส คลุกแป้งทอด
แล้วก็ทำน้ำแดงที่ใส่ไข่กุ้งจากฮ่องกงที่นำมาปรุงรส แล้วก็ราดมาบนเต้าหู้อีกที กินเต้าหู้เนื้อนุ่มเนียนเด้ง
เข้ากันดีกับน้ำแดงไข่กุ้งรสกลมกล่อม
นานาเมนูติ่มซำ
แล้วถ้าใครชื่นชอบกินติ่มซำ ก็มีให้อิ่มอร่อยกันในช่วงกลางวัน 10.00 - 14.00 น. มีเมนูของนึ่งและของทอด
หลากหลายกว่า 50 รายการต่อวัน เป็นติ่มซำทำสดนึ่งเสิร์ฟมาร้อนๆ ให้เลือกชิมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
ฮะเก๋าฮ่องเต้ (140 บาท+/เข่ง) แป้งฮะเก๋าบางนุ่มใส่ไส้กุ้งมาทั้งตัว กินแบบเต็มปากเต็มคำ ขนมจีบกุ้ง (80 บาท+/เข่ง)
เน้นใส่กุ้งมาทั้งตัวผสมกับเนื้อหมูหน่อยไส้แน่นถูกปาก ซาลาเปาไส้ครีม (60 บาท+/เข่ง) แป้งนุ่มไส้ครีม
เป็นลาวาไหลเยิ้มรสหวานละมุนลิ้น
บรรยากาศภายใน “ภัตตาคารเชียงกรีลา” สาขาสีลม
นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารจีนอื่นๆ ที่ชวนลองลิ้มอีกมากมาย อาทิ กุ้งมังกรซาซิมิหม้อไฟ (ราคาตามน้ำหนักกุ้ง
เริ่มต้น 10 ขีด ขีดละ 400 บาท+) เป๋าฮื้อสดนึ่งกระเทียม (ตัวละ 250 บาท+) หอยสังข์แปะซะ (เล็ก 450 บาท+
ใหญ่ 1,200 บาท+) เชียงการีลาพอร์คชอป (300 บาท+) และอีกหลายหลากอาหารจีนสไตล์กวางตุ้งหอเจี๊ยะ
ชวนให้มาลองลิ้มกันด้วยตัวเองที่ “ภัตตาคารเชียงกรีลา” สาขาสีลม
โต๊ะนั่งสบายๆ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“ภัตตาคารเชียงกรีลา” สาขาสีลม ตั้งอยู่ที่ 154/4-7 ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กทม. การเดินทางจากบางรัก
ให้วิ่งตรงมาทางแยกเดโช มุ่งหน้าไปทางโรงแรมโซฟิเทลสีลม ก่อนถึงสี่แยกถนนสีลม-ถนนนราธิวาส
จะเห็นภัตตาคารเชียงการีลา สาขาสีลมตั้งอยู่ทางซ้ายมือ ตรงข้ามกับสีลมพลาซ่า เปิดทุกวัน
เวลา 10.30 - 14.00 น. และ 17.00 - 22.00 น. ถ้ามากินอาหารแนะนำว่าควรโทร. มาจองโต๊ะล่วงหน้า
โทร. 0-2234-9147-9 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.shangarilagroup.com
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ขอขอบคุณบทความจาก : http://manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9590000109210
