นักร้องลูกทุ่งที่โด่งดังมานานจนถึงวันนี้ คงไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก "ก็อต" จักรพันธ์ เทพบุตรลูกทุ่งคนนี้ที่มีผลงานเพลง ละครทีวีและงานคอนเสิร์ต แต่กว่าจะมาเป็น ก๊อต จักรพันธ์ ในวันนี้ก็ต้องฟันฝ่าอุปสรรคมามากมาย แต่ด้วยเสียงที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร ทำให้สดุดหูนักแต่งเพลงชื่อดัง จึงได้ชักชวนก็อตเข้าสู่วงการเพลงค่ายแกรมมี่ตั่งแต่นั้นเป็นต้นมา "ก็อต" เกิดเมื่อ 13 กันยายน พ.ศ. 2511 เป็นลูกคนที่ 3 ในจำนวนพี่น้อง 4 คน โดยมีบิดาเป็นชาวอเมริกันส่วนมารดาพื้นเพ เป็นชาวอำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา ก็อตต้องออกจากโรงเรียนตั้งแต่อายุ 12 และยังไม่ทันจบระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เนื่องจากฐานะทางบ้านยากจน หลังออกจากโรงเรียน เริ่มทำงานเป็นช่างทำสีในอู่รถ ก่อนออกจากงาน เพื่อไปช่วยงานคุณตาคุณยาย ทำนาและเลี้ยงควาย ที่อำเภอครบุรี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สนุกสนาน และทำให้ผูกพันกับเพลงลูกทุ่งเป็นเวลายาวนาน
“ก๊อต”เริ่มร้องเพลง เป็นอาชีพที่บัวหลวงคาเฟ่ พัทยา ร้องอยู่ได้ประมาณปีเศษ ก็ได้พบกับ 'เขตต์อรัญ เลิศพิพัฒน์' นักแต่งเพลงของแกรมมี่ มองเห็นพรสวรรค์ในตัวก๊อต จึงให้ก๊อตร้องเพลงใส่เทปเพื่อส่งไปให้ 'เต๋อ' เรวัต พุทธินันทน์ พิจารณา เพลงที่ก๊อตเลือกร้องส่งไป 2 เพลง คือ เพลง "ดำเนินจ๋า" และ "สบายสบาย" ของเบิร์ด ปรากฎว่าเรวัต พุทธินันทน์ สนใจมากและเดินทางมาพัทยา เพื่อพบก๊อตด้วยตัวเอง จากจุดนั้น ก๊อตจึงได้เซ็นสัญญา เข้าสังกัดแกรมมี่ และรอเวลาอยู่ 3 ปี จึงได้ออกเทปชุดแรก "แม่ไม้เพลงไทย" ซึ่งเป็นการนำเพลงเก่า มาขับร้องใหม่ และมีเพลง "หัวใจผมว่าง" ของครูเพลงสุรพล สมบัติเจริญ เป็นเพลงแจ้งเกิด
{youtube width="550"}25brpn4Js4A{/youtube}
หลังจากชุด "แม่ไม้เพลงไทย" ก๊อตหันมาออกอัลบั้มเพลง ป๊อบตามสมัยนิยม 2 ชุด คือ อัลบั้ม "ก๊อต ช็อต" ในปี 2535 ตามมาด้วยอัลบั้ม "เพราะใจไม่เหมือนเดิม" ในอีก 2 ปี ถัดมา "นายจะต้องร้องลูกทุ่ง นายจะกลายเป็นเทพบุตรลูกทุ่ง นายจะยิ่งใหญ่ นายเชื่อเราเถอะ" 'เต๋อ' เรวัต พุทธินันทน์ เคยพูดประโยคนี้ กับก๊อตราวเกือบยี่สิบปีก่อน เมื่อผ่านมาถึงวันนี้ จักรพรรณ์ อาบครบุรี กลายเป็นเทพบุตรลูกทุ่ง ที่สร้างยอดขายเทป เป็นประวัติการณ์ลูกทุ่งไทย ด้วยความใฝ่ฝัน ที่จะทำเพลงลูกทุ่ง ตามที่ตนเองรักและถนัด ยังคุโชนอยู่เสมอ เมื่อได้โอกาสเหมาะ ก๊อตจึงออกอัลบั้มรวมชุด "หัวแก้วหัวแหวน" นำเพลงที่ครูเพลง หลายๆ ท่านในอดีต เคยทำไว้และประสบความสำเร็จ เช่น "อกหักพักบ้านนี้", "ปูไข่ไก่หลง", "ขี่เก๋งอย่าลืมเกวียน" มาเรียบเรียงและขับร้องใหม่ โดยออก "หัวแก้วหัวแหวน"เป็นซีรี่ส์ทั้งหมด 9 อัลบั้ม คือ "อกหักพักบ้านนี้", "ความรักเหมือนยาขม", "บอกรักฝากใจ", "มาลัยดอกรัก", "สมัครรักสมัครแฟน", "จูบไม่หวาน", "ปูไข่ไก่หลง", "ในฝัน" และ "ชวนน้องแต่งงาน"
{youtube width="550"}JYIdO7qyr90{/youtube}
อัลบั้มส่วนใหญ่ของก๊อต เป็นการนำเพลงเก่า มาเรียบเรียงและขับร้องใหม่ ซึ่งมีทั้งเพลงลูกทุ่ง และเพลงไทยสากล ในส่วนของการนำเพลงไทยสากล มาทำใหม่ อยู่ในผลงาน "บันทึกวรรณกรรมหนึ่งในสยาม" มีทั้งหมด 3 ชุด คือ "น้ำตาแสงไต้", "ใต้ร่มมลุลี" และ "ขอให้เหมือนเดิม" ซึ่งทั้งหมดออกมาในช่วงปี 2541 ส่วนงานเพลงลูกทุ่ง ที่เป็นผลงานใหม่ ของตัวก๊อตเอง คือ อัลบั้ม "ลูกทุ่งไทยแลนด์ ชุด 1" ในปี 2540 ตามด้วย "ลูกทุ่งไทยแลนด์ ชุด 2" ในปีถัดมา ในงานเหล่านี้แสดงถึงความพยายามของก๊อต ที่ต้องการมีส่วนร่วม ในการสร้างงาน โดยในชุดลูกทุ่งไทยแลนด์ 1 ก๊อตเขียนคำร้อง ในเพลง "รักไม่รักก็บอก" และเขียนทั้งคำร้อง-ทำนอง ในเพลง "ขอบคุณ"
เมื่อประมวลภาพทั้งหมด กว่าสองทศวรรษของ 'ก๊อต' จักรพรรณ์ อาบครบุรี บนถนนสายดนตรี ตั้งแต่อัลบั้มชุดแรก ที่ออกมาในปี 2533 จนถึงปัจจุบัน ก๊อตผ่านมาแล้วทั้งงานเพลงลูกทุ่ง เพลงป๊อบ และเพลงไทยสากล แต่ความสำเร็จที่โดดเด่นของก๊อต ก็ยังคง มาจากการร้องเพลงลูกทุ่ง มากกว่าเพลงไทยสากล แสดงให้เห็นว่า พรสวรรค์ของก๊อตคือ แนวเพลงลูกทุ่ง และเป็นสิ่งที่ 'เต๋อ' เรวัต พุทธินันทน์ เคยบอกไว้
{youtube width="550"}oUJbpTGGp0Q{/youtube}
ที่มา:http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=junely&month=24-07-2012&group=16&gblog=11
