Volkwagen Beetle หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ โฟล์ค เต่า เป็นรถยนต์ระดับไอคอนอีกรุ่นหนึ่งที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะ
การกลับมาเปิดตัวเจเนอเรชันที่ 2 ในสไตล์รถยนต์เรโทรเมื่อปี 1998 จนกลายเป็นผู้นำกระแสรถเรโทร และยิ่งเปิดตัว
รุ่นที่ 3 เมื่อปีที่แล้วก็ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี จน Volkswagen ไม่รอช้า เผยโฉมรุ่นตัวถังเปิดประทุนของเต่าอวกาศ
รุ่นใหม่ไปแล้วเมื่อวานนี้ (4 ตุลาคม 2012) ก่อนจะนำไปอวดโฉมในงาน 2012 L.A. Motor Show เดือนหน้า
รูปลักษณ์ภายนอกโดยรวมถือว่าเหมือนกับ 2012 Volkswagen Beetle ไม่ผิดเพี้ยน โดยความเแตกต่างจะมีเฉพาะ
ชุดหลังคาที่สามารถพับเปิด-ปิดได้อัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า และใช้เวลาประมาณ 10 วินาทีในการทำงาน โดยสามารถ
พับเปิด-ปิดหลังคาได้ที่ความเร็ว 0-48 กม./ชม.
แต่ถึงแม้ว่างานดีไซน์ตัวถังจะดูเหมือนกับรุ่นตัวถัง 3 ประตู ด้านงานวิศวกรรมโครงสร้างตัวถัง Volkswagen กลับใส่ใจ
เป็นพิเศษ ด้วยการออกแบบโครงสร้างเสาหลังคา A-Pillar ให้แข็งแกร่งกว่ารุ่นตัวถัง 3 ประตู พร้อมใส่ฟังก์ชัน Automatic
Rollover Support ที่ซ่อนตัวอยู่หลังพนักพิงเบาะโดยสารตอนหลัง และจะพุ่งตัวขึ้นมาในเวลาอันรวดเร็ว เพื่อปกป้องผู้
โดยสารหากเกิดการพลิกคว่ำ
สำหรับขุมพลังที่จะใช้ใน 2013 Volkswagen Beetle Cabriolet จะแตกต่างกันไปตามภูมิภาคที่ขาย เพื่อตอบโจทย์กลุ่ม
ลูกค้าที่มีรสนิยมการใช้งานที่ต่างกัน โดยชาวยุโรป จะได้ขุมพลังเบนซินเทอร์โบ 4 สูบเรียง TSI ทั้งขนาดความจุ 1.2 ลิตร
105 แรงม้า, 1.4 ลิตร 160 แรงม่้า และ 2.0 ลิตร 200 แรงม้า พร้อมกับขุมพลังดีเซลเทอร์โบ 4 สูบเรียง TDI ขนาดความจุ
1.6 ลิตร 103 แรงม้า และ 2.0 ลิตร 140 แรงม้า โดยบางขุมพลังจะมาพร้อมกับเทคโนโลยีประหยัดน้ำมันและรักษ์โลก
BlueMotion อีกด้วย
แต่สำหรับชาวมะกัน กลับได้ใช้เครื่องยนต์เบนซินไร้เทอร์โบแบบ 4 สูบเรียง ความจุ 2.5 ลิตร 170 แรงม้า เชื่อมต่อเข้ากับ
เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ แต่ก็ยังมีขุมพลังเบนซินเทอร์โบ 4 สูบเรียง TSI ความจุ 2.0 ลิตร 200 แรงม้า และขุมพลังดีเซล
เทอร์โบ 4 สูบเรียง TDI ความจุ 2.0 ลิตร 140 แรงม้าให้เลือกใช้เช่นกัน โดยทั้ง 2 ขุมพลังหลังสามารถเลือกจับคู่กับ
เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือเกียร์คลัทช์คู่ DSG 6 จังหวะ
ชุดหลังคาที่สามารถพับเปิด-ปิดได้อัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า และใช้เวลาประมาณ 10 วินาทีในการทำงาน โดยสามารถ
พับเปิด-ปิดหลังคาได้ที่ความเร็ว 0-48 กม./ชม.
แต่ถึงแม้ว่างานดีไซน์ตัวถังจะดูเหมือนกับรุ่นตัวถัง 3 ประตู ด้านงานวิศวกรรมโครงสร้างตัวถัง Volkswagen กลับใส่ใจ
เป็นพิเศษ ด้วยการออกแบบโครงสร้างเสาหลังคา A-Pillar ให้แข็งแกร่งกว่ารุ่นตัวถัง 3 ประตู พร้อมใส่ฟังก์ชัน Automatic
Rollover Support ที่ซ่อนตัวอยู่หลังพนักพิงเบาะโดยสารตอนหลัง และจะพุ่งตัวขึ้นมาในเวลาอันรวดเร็ว เพื่อปกป้องผู้
โดยสารหากเกิดการพลิกคว่ำ
สำหรับขุมพลังที่จะใช้ใน 2013 Volkswagen Beetle Cabriolet จะแตกต่างกันไปตามภูมิภาคที่ขาย เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มีรสนิยมการใช้งานที่ต่างกัน โดยชาวยุโรป จะได้ขุมพลังเบนซินเทอร์โบ 4 สูบเรียง TSI ทั้งขนาดความจุ 1.2 ลิตร
105 แรงม้า, 1.4 ลิตร 160 แรงม่้า และ 2.0 ลิตร 200 แรงม้า พร้อมกับขุมพลังดีเซลเทอร์โบ 4 สูบเรียง TDI ขนาดความจุ
1.6 ลิตร 103 แรงม้า และ 2.0 ลิตร 140 แรงม้า โดยบางขุมพลังจะมาพร้อมกับเทคโนโลยีประหยัดน้ำมันและรักษ์โลก
BlueMotion อีกด้วย
แต่สำหรับชาวมะกัน กลับได้ใช้เครื่องยนต์เบนซินไร้เทอร์โบแบบ 4 สูบเรียง ความจุ 2.5 ลิตร 170 แรงม้า เชื่อมต่อเข้ากับ
เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ แต่ก็ยังมีขุมพลังเบนซินเทอร์โบ 4 สูบเรียง TSI ความจุ 2.0 ลิตร 200 แรงม้า และขุมพลังดีเซล
เทอร์โบ 4 สูบเรียง TDI ความจุ 2.0 ลิตร 140 แรงม้าให้เลือกใช้เช่นกัน โดยทั้ง 2 ขุมพลังหลังสามารถเลือกจับคู่กับ
เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือเกียร์คลัทช์คู่ DSG 6 จังหวะ
2013 Volkswagen Beetle Cabriolet จะพร้อมออกจำหน่ายตามโชว์รูมในช่วงต้นปีหน้า ส่วนลูกค้าชาวไทยที่หวังจะ
ท้าสายลมในสไตล์เรโทรแบบนี้ เห็นทีจะต้องคอยกันเก้อ เพราะผู้แทนจำหน่าย Volkswagen ในไทยน่าจะเน้นจำหน่าย
ตัวถัง 3 ประตูเป็นหลักครับ และก็ยังไม่ได้ทำการจำหน่ายในตอนนี้
ที่มา Headlightmag
ท้าสายลมในสไตล์เรโทรแบบนี้ เห็นทีจะต้องคอยกันเก้อ เพราะผู้แทนจำหน่าย Volkswagen ในไทยน่าจะเน้นจำหน่าย
ตัวถัง 3 ประตูเป็นหลักครับ และก็ยังไม่ได้ทำการจำหน่ายในตอนนี้
ที่มา Headlightmag
